[Full Match]Manchester United vs Arsenal วันสิ้นโลก! หมูแฮทริคผีกระทืบปืนปี๊บคลุมหัว 8-2 [720p HD]

{[['

']]}

แฟน"ปืนใหญ่"อาร์เซนอลนั่งช็อกเหมือนถูกเหยียบจมดินห ลังบุกมาถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไล้ต้อนตือแบบสู้ไม่ได้ 8-2 โดยเวย์น รูนีย์หอกตัวเอ้ทำแฮทริคจาก 2 ฟรีคิกเวิร์ลดคลาสรั้งจ่าฝูงส่วนลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์มีแต้มเดียวรั้งอันดับ 17 สุดชอกช้ำ

พรีเมียร์ ลีก

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2554

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8 : 2 อาร์เซนอล

ประตู : 1-0 แดนนี่ เวลเบ็ค น.22,2-0 แอชลี่ย์ ยัง น.28,3-0 เวย์น รูนี่ย์ น.41,3-1 ธีโอ วัลค็อตต์ น.45+3,4-1 เวย์น รูนี่ย์ น.64,5-1 หลุยส์ นานี่ น.67,6-1 ปาร์ค จี ซอง น.70,6-2 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.74,7-2 เวย์น รูนี่ย์ น.81,8-2 แอชลี่ย์ ยัง น.90+2

เจ้าบ้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคงทีมชุดเดิมจากที่เอาชนะท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สมาได้ในเกมก่อน แม้ว่าเฟอร์ดินานด์จะหายเจ็บกลับมาแล้วก็ตาม รวมทั้งเอร์นานเดซด้วย แต่เซอร์ อเล็กซ์ก็ยังไว้วางใจในตัวดาวรุ่งของทีมอยู่

อาร์เซนอลค่อนข้างจะมีปัญหาเยอะพอสมควร จนต้องเอากองหลังดาวรุ่งอย่างตราโอเล่, เจนกินสัน รวมทั้งโกเกอแล็งลงเล่นในเกมนี้

นี่อาจจะเป็นงานยากของอาร์เซนอลเลยเพราะว่าสภาพทีมไม ่ค่อยสมบูรณ์ แถมเวนเกอร์ยังไม่สามารถพาลูกทีมมาคว้าชัยที่สนามโอล ด์ แทรฟฟอร์ดเข้าปีที่ 7 ให้แล้ว

ครึ่งแรก
โก๋แดนวิ่งหลุดแต่ยิงไม่ดี
นาทีที่ 6 เริ่มต้นเกมถือว่าทำได้ดีเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ดและมา ได้ลุ้นจากจังหวะจ่ายของยังที่แทงบอลทะลุให้กับเวลเบ ็ควิ่งหลุดเข้าไปถึงกรอบเขตโทษ แต่จังหวะยิงทำได้ไม่ดีเท่าไร ซัดหลุดกรอบออกหลังไป

ผียังดีกว่าอยู่
ผ่านช่วง 10 นาทีแรกไป แมนฯยูไนเต็ดเจ้าบ้านยังคงครองบอลได้มากกว่าอาร์เซนอ ลอยู่ ซึ่งในฤดูกาลนี้เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาครองบอล ต่อบอลเล่นกันสั้นๆได้ดีมากกว่าในหลายๆฤดูกาลที่ผ่าน มา

หนูทอมได้เลือด
งานนี้ไม่รู้ว่าแอนตาซิลมีมาแจกหรือเปล่า จากจังหวะที่ไปแย่งโหม่งกับทางโรคซิกี้ของเคลฟเวอร์ล ี่ย์ ที่ไปถูกศอกเข้าที่ปลายคิ้วจังๆ ทำให้เลือดแตกจนต้องถูกส่งตัวไปปฐมพยาบาลที่ข้างสนาม เสียก่อน

ธีโอโดนเด็ดถอนหงอก
เสียเชิงรุ่นพี่เลยาสำหรับวัลค็อตต์ที่ไปโวยรุ่นน้อง เพราะอยากให้เข้าไปประกบช่วยกันซ้อนมาจังหวะตั้งรับ แต่โดนเจนกินสันถอนหงอกด้วยการด่ากลับแจกฟักให้กินไป เต็มๆ

ปืนพลาดกันเอง!โก๋แดนจัดให้เลย
นาทีที่ 22 งานนี้เป็นความผิดพลาดของผู้เล่นอาร์เซนอลล้วนๆ ในจังหวะที่อุตส่าเคลียร์บอลออกไปได้แล้ว แต่เจออันแดร์สันตักคืนกลับเข้าไปในกรอบเขตโทษอีกครั ้ง ฌูรูนั้นยืนบังอยู่ แต่ไม่คิดที่จะสกัด ทำให้เพื่อนคนอื่นยึกยักห จนสุดท้ายเวลเบ็คชิงโหม่งผ่านตัวเซสนี่ย์เข้าไปไม่เห ลือ แมนฯยูไนเต็ดนำไปแล้ว 1-0

จากจังหวะนี้ทำให้ผู้เล่นอาร์เซนอลชักจะหัวเสียเถียง กันเอง แบบนี้หากยังไม่ปรับสมาธิกลับมาแบบนี้เกมจะพังเอาง่า ยๆ

สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ!เด เกอาโคตรหล่อเซฟจุดโทษ
นาทีที่ 26 กลายเป็นเข้าตำราสร้างวีรบุรุษเลยทีเดียว หลังจากยูไนเต็ดไปพลาดเสียจุดโทษจากจังหวะที่อีแวนส์ ไปคว้าแขนวัลค็อตต์ล้มลงในกรอบเขตโทษ ทำให้ฮาวเวิร์ด เว็บบ์เป่าเป็นจุดโทษทันที

ฟาน เพอร์ซี่รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงเบาหวิว เด เกอาก็เลยพุ่งตัวไปปัดทิ้งออกหลังไดทัน หล่อเฟี้ยวเรียกความมั่นใจได้เยอะเลยทีเดียว

สมบูรณ์แบบ!ยังซัดเสียบเสางามมาก
อีก 3 นาทีต่อมา พอทำไม่ได้ อาร์เซนอลก็เลยมาเสียซ้ำเม็ดที่สอง จากจังหวะที่ยังได้บอลหน้ากรอบเขตโทษของอาร์เซนอล ยึกยักหลอกก่อนหนึ่งจังหวะ แล้วจัดการตะบันด้วยขวา บอลพุ่งโค้งวาดเป็นวงผ่านมือของเซสนี่ย์ที่พุ่งเต็มเ หยียดแล้วเข้าไปเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม แมนฯยูไนเต็ดนำห่างไปแล้ว 2-0

เขามาแล้ว!?เด เกอาเซฟซ้อนสอง
นาทีที่ 30 รู้สึกว่าจะได้ความมั่นใจกลับมาแล้วหรือไม่สำหรับเด เกอา เมื่อเขาพุ่งตัวเซฟลูกยิงไกลของอาร์ชาวินเอาไว้ได้ แถมยังลุกขึ้นมาบล็อกจังหวะซ้ำเอาไว้ได้อีกครั้ง น่าจะได้ใจแฟนบอลขึ้นมาไม่น้อยเลย

เสียดาย!เวลเบ็คเจ็บเอง
นาทีที่ 35 แฟนบอลถึงกับเซ็งเลยทีเดียว เพราะเวลเบ็คที่กำลังเล่นได้เป็นอย่างดี เกิดอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่าในจังหวะที่วิ่งค วบไปเอาบอล แต่เจ็บขึ้นมาเสียก่อน ทำให้ต้องพาออกจากสนามทันทีและส่งเอร์นานเดซลงไปเล่น แทน

อาร์ชาวินเฮง!เสียบหนักแต่ไม่โดน
ถือว่าเฮงพอสมควรเลยสำหรับอาร์ชาวิน เพราะเขามีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้ว แต่ดันไปเสียบหนักใส่ยังในจังหวะปั้มบอล ซึ่งดูจากภาพช้าแล้ว โดนข้อเท้ายังเต็มๆ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ทำให้รอดตัวไป

โคตรฉมัง!ไอ้หมูซัดฟรีคิกสวยเว่อร์
นาทีที่ 42 กลายเป็นครึ่งแรกที่ถล่มทลายไปเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อมาได้ประตูนำห่าง 3-0 ในจังหวะที่แตะฟรีคิกเปลี่ยนจุด ก่อนที่รูนี่ย์จะจัดการปั่นโค้งไปที่เสาแรก แม้ว่าเซสนี่ย์จะพุ่งไปทันแต่ก็ปัดไว้ได้แค่ปลายนิ้ว ลูกผ่านเข้าประตูไป

ตีไข่แตก!ธีโอยิงได้สวย
ช่วงทดเวลานาทีสุดท้ายเลย อาร์เซนอลก็มาได้ประตูตีไข่แตก ในจังหวะผิดพลาดของเอฟร่าที่ทิ้งตำแหน่งตัวเองไปสกัด บอลตรงกลาง แล้วดันตรงไปเข้าทางผู้เล่นของอาร์เซนอล เลยโดนแทงบอลทะลุช่องและเป็นวัลค็อตต์ที่วิ่งไปแปลอด ดากของเด เกอานายทวารหุ่ไส้กรอกที่หุบขายาวๆไม่ทัน บอลพุ่งตุงตาข่าย "ปืนใหญ่" ได้ประตูสำคัญก่อนที่จะจบครึ่งแรกลงไปที่สกอร์ 3-1

ครึ่งหลัง

บังอินดี้จนหมูเซ็ง
นาทีที่ 50 นานี่ทำเอาเพื่อนร่วมทีมนัดกันเซ็งไปเลย เพราะอุตส่าลากบอลหลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลัง แล้วเพื่อนก็ยืนรอในกรอบเขตโทษกันแล้ว แต่เจ้าตัวตักบอลก่ะจะให้เข้าประตูไปทีเดียว สุดท้ายบอลออกหลังไม่ได้ลุ้นอะไร

เด เกอาเซฟสวย!RVP ไม่ล้ำยิงโคตรดี
อีก 4 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดเกือบจะพลาดอีกครั้งแล้ว เมื่อไปเช็กล้ำหน้ากันไม่ดี ส่งผลให้ฟาน เพอร์ซี่ได้วอลเล่ย์เน้นๆคนเดียวในกรอบเขตโทษ ยังดีที่เด เกอาขยับไปพุ่งปัดเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นงานงอกแน่นอน

วัดกันไปคนละที!
เข้าสู่ชั่วหนึ่งชั่วโมงเต็มของเกม มีโอกาสลุ้นกันแบบเต็มๆไปเลยคนละที เริ่มจากอาร์เซนอล ที่ได้โอกาสจากอาร์ชาวินลากบอลเข้าในกรอบเขตโทษ แล้วยิงทันที แต่บอลไปแฉลบขาของอีแวนส์ออกหลังไป

ก่อนที่แมนฯยูไนเต็ดจะได้โอกาสจากเคลฟเวอร์ลี่ย์ที่ช ิ่งบอลกับเอร์นานเดซ ก่อนจะหลุดเข้าไปเอี้ยวตัวยิงแบบฝืนๆ ทำให้บอลเข้าซองของเซสนี่ย์ไร้ปัญหา

อาบังยิงแป้ก!ผีพลาดโอกาส
นาทีที่ 62 แมนฯยูไนเต็ดบุกโหมชุดใหญ่ใส่อาร์เซนอลเต็มที่และน่า จะได้ประตูที่สี่ หากว่าจังหวะยิงจ่อๆหน้าประตูของอาร์เซนอล แต่เจ้าตัวเตะแป้กโดนไม่เต็ม ทำให้พลาดโอกาสไปแบบเต็มๆ

สุดจะบรรยาย!หมูยิงฟรีคิกสุดเมพ
อีก 2 นาทีต่อมา รูนี่ย์แผลงฤทธิ์การยิงฟรีคิกได้อย่างเฉียบขาดสุดๆ เมื่อแตะเปลี่ยนจุด ก่อนที่จะยิงบอลปั่นโค้งส่งบอลพุ่งไปเสาแรก หลอกเซสนี่ย์หลังแทบหัก เพราะว่าขยับไปทางเสาไกล ทำให้แมนฯยูไนเต็ดนำห่าง 4-1 น่าจะดึงโมเมนตั้มของเกมกลับมาได้แล้ว

ปืนกระบอกแตก!อาบังชิพเด็ดขาด
นาทีที่ 67 กองหลังของอาร์เซนอลผิดพลาดมหันต์ เมื่อเช็กล้ำหน้ากันพลาดไม่ยอมประกบนานี่ ทำให้สุดท้ายนานี่หลุดเดี่ยวเข้าไปชิพบอลผ่านเซสนี่ย ์เข้าไปแบบเลือดเย็นสุดๆ "ปีศาจแดง" ทิ้งห่าง 5-1

กำลังมั่นใจ!หมูชิพเกือบได้เฮ
อีก 3 นาทีต่อมา เกือบจะเป็นแฮทริกที่ยอดเยี่ยมสำหรับรูนี่ย์เสียแล้ว จากจังหวะที่เขาได้บอลนอกกรอบเขตโทษ สบโอกาสเห็นช่องก็เลยจัดการชิพบอลแบบยาวๆ ผ่านเซสนี่ย์ไปได้แล้ว แต่บอลชนเสาน่าเสียดาย

เละเทะ!ปาร์คอัดลูก 6 ให้ผี
นาทีที่ 71 เละเทะไปเลยสำหรับอาร์เซนอล เมื่อมาเจอประตูที่ 6 จากปาร์คที่เพิ่งจะถูกส่งลงสนาม หลังทำชิ่งกับเพื่อน แล้วตวัดยิงในกรอบเขตโทษ แม้บอลจะไม่แรง แต่ก็ไหลห่างมือของเซสนี่ย์ที่พุ่งไปไม่ทัน เละเลยจริงๆสำหรับ "ปืนใหญ่"

สู้โว้ย!RVP ตะบันเต็มตีนไล่มาแล้ว
นาทีที่ 74 แนวรับที่ยืนกันผิดพลาดของแมนฯยูไนเต็ด ส่งผลให้อาร์เซนอลมาทำประตูไล่ขึ้นมาได้อีกหนึ่งลูก จากจังหวะสกัดไม่ขาด โดนหนุนกลับคืน เป็นฟาน เพอร์ซี่ที่ยืนรอเสาสองอัดเต็มตีนเตี่ย ถ้าโดนหัวเด เกอาคงขาด พุ่งเข้าประตูไป อาร์เซนอลไล่มาเป็น 6-2 แล้ว

หนักหนา!ปืนเหลือ 10 ตัว
อีก 3 นาทีต่อมา หนักหนาเลยสำหรับอาร์เซนอลเมื่อมาเสียผู้เล่นไปจากใบ แดง เมื่อเจนกินสันไปเจตนาดับเครื่องชนใส่เอร์นานเดซที่ก ำลังจะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากส นามไป

ไอ้หมูแฮทริก!ซัดจุดโทษไม่มีเหลือจ้า
นาทีที่ 81 ในที่สุดก็มาทำแฮทริกจนได้สำหรับรูนี่ย์ เมื่อวัลค็อตต์ไปเสียท่าสกัดเอฟร่าล้มลงในกรอบเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษให้ทันที

ก่อนที่รูนี่ย์จะมารับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปไม่ม ีเหลือ ทำให้ตอนนี้สกอร์ถล่มทลายถึง 7-2 และเป็นแฮทริกแรกของไอ้หมูในซีซั่นนี้

ผีเริ่มผ่อนเกม
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของเกม ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นที่แมนฯยูไนเต็ดต้องไปเร่งทำเก มอะไรแล้ว ทำให้เกมเลยเฉื่อยๆไปเรื่อยๆ เหมือนรอให้เวลาจบลงเสียมากกว่า

สูตรเดิม!ยังยิงเป๊ะอัดเม็ดที่ 8
ช่วงทดเวลานาทีที่ 8 ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ เมื่อแมนฯยูไนเต็ดมาได้ประตูที่ 8 จากลูกยิงตามสูตรเฉพาะตัวของยัง ปั่นโค้งไปตำแหน่งเดิมเสียบตาข่ายเข้าไปไม่มีเหลือ สกอร์ 8-2 ไม่ต้องบรรยายแล้ว

จบ 90 นาทีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสร้างประวัติศาสตร์การถล่มคู่ปรับอย่างอาร์เ ซนอลไปเละเทะถึง 8-2 ทำให้พวกเขาขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงด้วยชัยชนะ 3 เกมรวดและประตูได้เสียที่มากกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้อยู่ +1

แต่อาร์เซนอลต้องร่วงไปอยู่อันดับที่ 17 มีเพียงแต้มเดียว แถมยังโดนยิงไส้ไหลประตูได้เสียลบ 8 เลยทีเดียว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาวิด เด เกอา 6.5,จอนนี่ อีแวนส์ 6,ฟีล โจนส์ 7.5,ปาทริซ เอฟร่า 7.5,คริส สมอลลิ่ง 8,อันแดร์สัน 8(กิ๊กส์ 7 น.68),ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ 7.5,แอชลี่ย์ ยัง 9,นานี่ 7.5(ปาร์ค 7 น.68),เวย์น รูนี่ย์ 9.5*,แดนนี่ เวลเบ็ค 7.5(เอร์นานเดซ 7 น.36)

อาร์เซนอล : วอจเซียจ เชสนี่ย์ 6,โลร็องต์ กอสเซียลนี่ 4,โยฮัน ฌูรู 4,อาร์มานด์ ตราโอเร่ 4,คาร์ล เจนกินสัน 3,แอร่อน แรมซี่ย์ 6,ฟรานซิส โกเกอแล็ง 4.5(แชมเบอร์เลน 6 น.62),อังเดร อาร์ชาวิน 4,ธีโอ วัลค็อตต์ 5.5(แลนส์เบอรี่ 5 น.84),โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 5.5(ชามัคห์ 5 น.84),โทมัส โรซิคกี้ 4.5